หลังจากที่สืบทราบมาคร่าวๆ ว่าครูสอนเคนโดของชมรมเคนโดหนึ่งในประเทศนี้ ได้เคยไม่พอใจชื่อชมรมกีฬาเดียวกันแต่คนละแห่ง อาจมีปัญหาเป็นการภายในเพราะความอิจฉา หรือรักความถูกต้องจนออกนอกหน้าก็ตาม ทำให้เกิดความอิจฉาริษยาขึ้นในจิตใจทำให้เป็นคนขี้ระแวง หวงแหน ถึงขั้นหวง ข.ไข่ ต้นเหตุของเรื่องดังกล่าว น่าจะเกิดจากเด็ก admin คนหนึ่งที่เข้าใจว่าอยู่ในอารมณ์หวังดีแต่ไม่แสดงออก ดันไปเอ่ยชื่อ “ชมรม” อันเป็นของรักของหวงของเค้า เพราะชื่อนี้เป็นของผมว่าอย่างนั้น เพราะตนเองเป็นคนก่อตั้งขึ้น admin คนนั้นนำชื่อไปเปิดเผยในที่สาธารณะแห่งหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างจริงจัง ประมาณว่า ไม่ควรเอ่ยนามหากไม่ขอกันก่อน
ความจริงเค้าตั้งใจจะให้ชมรมนี้เป็นชมรมปิด เฉพาะในระบบ Social Network แต่เป็นชมรมเปิด และรับสมาชิกเข้าตามปกติ เสียค่าธรรมเนียมในการเรียนรู้ ใครอยากสมัครหรือเป็นสมาชิกต้องส่งเอกสารที่แสดงความเป็นตัวตนเพื่อพิสูจน์ได้ แต่น่าแปลกที่ว่า ใน facebook fan page กลับเป็นหน้าของชมรมที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ เพียงแค่รู้ชื่อชมรม ทั้งๆ ที่เจตนาตัวเองตั้งใจไว้ว่าเป็นระบบปิด ห้ามคนภายนอกยกเว้นสมาชิกเข้าใช้
แต่คงจะลืมไป เพราะไม่ได้มีทางเข้าทางเดียวเหมือนกับที่ครูคนเก่งตั้งใจ ไม่ว่าจะในเว็บ ในเว็บบอร์ด ในบล็อก ก็เข้าได้ทั้งนั้น อาจจะรู้หรือแกล้งโง่ หรือทำไม่เป็น หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว ระบบที่เปิดใช้บน facebook มันก็รองรับกรณีต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่าเค้าอาจจะมีแค่ความชำนาญด้านการใช้ดาบและปากไว้ฟาดหัวคน มากกว่าจะอ่านและทำความเข้าใจกับระบบบน Social Network ที่เป็นบริการฟรี Online สำหรับทุกคน หรือสมองด้านการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้านนี้มันโดนตียุบไปอยู่หลังท้ายทอยตอนเด็กๆ เลยไม่มีพัฒนาการใดๆ ให้ดีขึ้น
กลับมาเรื่อง admin เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นเพราะครูคนนี้ดันไปรู้มาว่า ชื่อชมรม ไปเกาะอยู่กับชมรมคู่แข่ง จึงฟาดงวงฟาดงาโวยวาย (ผมไม่ยอม ผมไม่ยอม ผมไม่ยอม) จน admin คนนั้นต้องยอมเข้าไปขอโทษขอโพย เพราะอาจารย์ผู้สอนก็รู้จักกับครูคนเก่ง อีกทั้งผู้มีความรู้ที่ประสิทธ์ประสาทวิชาให้ admin ก็รู้จักกันหมด ด้วยความเกรงใจหรือยำเกรงหรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังไว้ สุดท้ายแล้วเรื่องก็จบลงไปด้วยดีด้วยการที่ admin ต้องคลานไปกราบแทบเท้าครูคนเก่งผ่านสื่อจนครูยิ้มออก
แต่ก็ไม่รู้ว่า admin คนนั้นยังอารมณ์ค้างอยู่หรือไม่ หรืออาจรู้สึกไปเอง ว่าเค้าคงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย ไม่ใช่ว่ากลัวแต่ไม่อยากรำคาญ อยากหาความรู้ใส่ตัวมากกว่าจะไปตอแยคนไม่ปกติสุขทางจิต จึงยอมขอโทษในที่สุด อาจเพราะผิดจริงก็ได้ จนสุดท้ายครูคนเก่งเลยชมผ่านสื่อให้ ประมาณใครอ่านแล้วต้องตัวลอย คิดว่าคนเขียนต้องมีจิตใจเอื้อเฟื้ออารีย์อย่างยิ่ง
ขณะเดียวกันผมก็ไม่คิดว่า admin คนนั้นจะยินดีด้วย เพราะแม้แต่ชื่อของครูคนเก่ง admin เองยังไม่อยากจะจำและพูดออกมาให้เสียลมปาก ทั้งที่ใครก็รู้ ว่าเค้าดังด้วยการเป็นคนริเริมก่อตั้งชมรมที่ยิ่งใหญ่คับฟ้า ทุกๆ post ของเค้าจะมีชื่อเล่น หรือชื่อจริงอยู่ตลอดแทบทุกครั้ง ไม่ยากหากจะค้นหาว่าเค้าเป็นใคร หรือบางที่ admin เค้ารู้อยู่แล้วแต่ไม่อยากเอ่ยถึง “ด้วยความกระอักกระอ่วนที่จะพูดออกมา”
ปัญหาจบที่ปลายทาง แต่ที่ริเริ่มทำไว้ หรืออาจเป็นคนอื่นอีกที่ “ไม่ชอบพฤติกรรมครูป่วย” ด้วยการนั้นผลมันเลยตกเป็นความซวยของนัก Internet Marketing บ้านนอกคนหนึ่ง ที่บังอาจไปแสดงความคิดเห็นในหน้า page ของชมรมที่เค้าอ้างว่า “เว้นไว้เฉพาะสมาชิก” แต่คงลืมเขียนให้เต็มๆ ว่า “เว้นไว้เฉพาะสมาชิกอ่าน คนทั่วไปตบชัก” เพราะจากหลักฐานที่มีและที่ครูนั้นทำ มันผิดกับที่แสดงออกมากมาย ประมาณว่าเปิดร้านให้สมาชิกเข้าชมและเลือกซื้อสินค้า แต่ดันไปเปิดกลางตลาดสด ทีนี้คนที่เค้าสนใจก็อยากจะมาเลือกซื้อใช้สอย ดันโดนตบชักดิ้นกระแด่วๆ อยู่ตรงนั้น เหมือนกับ IM บ้านนอกคนนึง
นิสัยแย่ๆ ของครูผู้นี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ กับพฤติกรรมจอมแฉและคุยไม่รู้เรื่อง เพราะจากการพูดคูยเหมือนจะพูดกันไม่รู้เรื่อง ขี้โม้ โอ้อวด แต่ไร้หลักฐาน อย่างที่คุณยายเคนโดว่าไว้ “พูดกับแมวหมา ยังคุยรู้เรื่องกว่าคุยกับครูคนนี้” ก็เข้าใจว่าผู้บริหารคงเล็งเห็นถึงฝีมือ (เท่านั้น) เลยเปิดโอกาสให้ดูแลชมรม แต่คงจะระอากับนิสัยใจคอที่คับแคบ หมกมุ่น เหมือนดั่งผู้มียุทธทั่วไป ที่คิดว่าตัวเองเก่งนักหนา จะพูดจะคุยด้วยต้องก้มกราบคลานเข้ามา ถึงจะยอมรับไว้ โถ..อนาถจัง เป็นคนดังทั้งที น่าจะมีนิสัยที่กว้างซักหน่อย แต่ดันตกม้าตายด้วยลืมไปว่า เรื่องเก่าเรื่องใหม่ มันคนละคนกัน